วันจันทร์ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

Final Fantasy XIII


เนื้อเรื่อง


ไฟนอลแฟนตาซี XIII แบ่งเนื้อเรื่องออกเป็น 13 บท เนื้อหาเป็นการผจญภัยของตัวละครหลักหกตัว ตั้งแต่การเดินทางโดยรถไฟจากพัลส์สู่โคคูน การกลายเป็นลูซีย์ ( L'Cie ) การต่อสู้กับรัฐบาลศักดิ์สิทธิ์ของพัลโคคูน (ซังค์ทัม) นำโดยการานธ์ หรือฟาลซีบัลโทอันเดลุส ( Barthendelus ) ราชาแห่งฟาลซี ผู้เคืองแค้นโอร์ฟาน ( Orphan ) ฟาลซีของพัลส์ที่ทรยศมาอยู่ฝ่ายโคคูน และการช่วยเหลือมิให้โคคูนตกลงสู่พัลส์

เมื่อนานมาแล้ว ฟาลซีโอร์ฟานได้สร้างโลกพัลส์ขึ้นมา แต่เมื่อจำนวนประชากรมากขึ้น จนเกิดความวุ่นวาย โอร์ฟานและฟาลซีตนอื่นๆ จึงคิดจะล้างโลก โดยใช้มนุษย์ผู้หนึ่งเรียก แร็กนาร็อก มนต์อสูรแห่งการทำลายเพื่อกวาดทุกสิ่งให้เหลือศูนย์ แล้วสร้างโคคูน ดาวดวงใหม่ อารยธรรมใหม่ ให้แก่มนุษย์

500 ปีต่อมา รัฐบาลศักดิ์สิทธิ์ของโคคูน ซึ่งการานธ์ ไดน์สีย์ เป็นผู้นำ มีนโยบายในการกวาดล้างเหล่าลูซี และสร้างความหวาดกลัวเหล่าลูซีแก่มนุษย์ แต่การจำแนกเหล่าลูซีที่ปะปนกับมนุษย์ทั่วไปนั้นทำได้ยาก จึงต้องส่งกลุ่มคนที่ต้องสงสัยทั้งหมดไปยังพัลส์ โลกเบื้องล่างที่ประชากรในโคคูนต่างหวาดกลัว คนกลุ่มที่ถูกส่งมายังพัลส์ในช่วงต้นเกมก็คือ ชาวเมืองโบดัม ( Bodhum )ที่ไลท์นิ่งอาศัยอยู่ นอกจากไลท์นิ่ง ( Lightning Farron ) ที่โดยสารขบวนนี้แล้ว ยังมีซัลซ์ที่มีลูกชายเป็นลูซี สโนว์ ( Snow Farron ) ที่ต้องการตามหาเซร่า ( Serah Farron ) น้องสาวของไลท์นิ่งและคนรักของเขา โฮป

( Hope Estheim ) และวานิลล์ (Vanille ) รวมอยู่ด้วย

เมื่อรถไฟมาถึงเขตชายขอบ ไลท์นิ่งและพรรคพวกได้ปฏิบัติการโจมตีเหล่าทหารของรัฐบาล (Psicom) และช่วยเหลือผู้คน จากนั้นจึงมุ่งไปยังโบราณสถาน ณ ที่นั้น พวกเขาได้พบกับเซร่า แต่เธอก็กลายเป็นคริสตัลเสียแล้ว กลุ่มตัวเอกจึงไปขอร้องฟาลซีอะนิมาที่เฝ้าโบราณสถานให้ช่วยเซร่า แต่ฟาลซีอนิมากลับเข้าต่อสู้ เมื่อใกล้สิ้นชีพอะนิมาได้สาปพวกเขาให้กลายเป็นลูซี

เมื่อทั้งหมดกลายเป็นลูซี จึงได้ออกผจญภัยเพื่อตามหาความจริง และได้เจอกับการานธ์ ซึ่งที่จริงก็คือบัลดันเดอร์ ราชาแห่งฟาลซี ผู้เคืองแค้นโอร์ฟาน ฟาลซีของพัลส์ที่ทรยศมาอยู่ฝ่ายโคคูน บัลดันเดอร์ต้องการทำลายโคคูนทิ้ง โดยใช้กลุ่มตัวเอกให้เรียกแร็กนาร็อกอีกครั้ง จากนั้นกลุ่มตัวเอกได้ผจญภัยเข้าไปในพัลส์ ผ่านศัตรูโหดร้ายมากมาย จนกระทั่งได้เจอกับบัลดันเดอร์อีกครั้ง บัลดันเดอร์ได้ฝากให้ปฏิบัติภารกิจทีเขามอบหมายให้สำเร็จ และทิ้งยานไว้ให้ตัวเอกกลับไปยังโคคูน เมื่อกลุ่มตัวเอกกลับไปยังโคคูนก็พบว่า สัตว์ขนาดมหึมาจากพัลส์ได้มุ่งตรงเข้าสู่โคคูนเป็นจำนวนมาก ทุกคนจึงฝ่าพวกมันไปยังเซ็นทรัลทาวเวอร์ หอคอยกลางมหานครเอเดน ( Eden ) เพื่อพบกับบัลดันเดอร์อีกครั้ง

เมื่อมาถึงใจกลางหอคอย กลุ่มตัวเอกได้สู้กับบัลดันเดอร์เป็นครั้งสุดท้าย เมื่อชนะแล้วทุกคนต่างดีใจยกเว้นไลท์นิ่งที่สังหรณ์ใจบางอย่าง และแล้ว มิเนอร์วา นกที่คอยติดตามบัลดันเดอร์มาตลอดได้พุ่งเข้ารวมร่างกับบัลดันเดอร์เป็นโอร์ฟาน ฟาลซีผู้สร้าง และกำลังจะเป็นผู้ทำลายโลกทั้งสอง โอร์ฟานได้ทรมานวานิลล์และฟาง สองผู้รอดชีวิตจากสงครามเมื่อ 500 ปีก่อน และเป็นผู้เรียกแร็กนาร็อกมาทำลายโลก โดยหวังให้เรียกมนต์อสูรตนนั้นออกมาอีกครั้ง แต่ด้วยพลังของเพื่อนทุกคนทำให้ทั้งสองควบคุมสติและร่วมมือกันกำจัดโอร์ฟาน จนสำเร็จ

เมื่อโอร์ฟานสิ้นชีพ ก็เปรียบเหมือนแกนค้ำจุนโคคูนได้ทลายลงด้วย โคคูนกำลังจะร่วงลงสู่พัลส์ วานิลล์และฟางจึงประสานใจกันเกิดเป็นแร็กนาร็อกที่ไม่ได้เป็นผู้ทำลายอีกต่อ ไป หากแต่เป็นผู้คุ้มครองโคคูน แร็กนาร็อกได้แปลงพลังของตนและของพัลส์ทั้งหมดเป็นเสาคริสตัลค้ำโคคูนไม่ ใหตกลงสู่พัลส์ ทำให้มนุษย์รอดพ้นหายนะครั้งใหญ่นี้ได้









 Final Fantasy XIII trailer



Lightning
Characters

Claire " Lightning " Farron อายุ 21 ปี อดีตทหารหญิงแห่งโคคูน 
ใช้ดาบที่มีไกปืนเป็นอาวุธ คริสตัลประจำตัวเธอมีรูปร่างคล้ายดอกกุหลาบ และอสูรประจำตัวคือ Odin ธาตุสายฟ้า ที่สามารถแปลงเป็นม้าได้ Tetsuya Nomura ผู้ออกแบบตั้งใจออกแบบให้เหมือน Cloud Strife ( FF VII ) เวอร์ชันผู้หญิง และชื่อจริงของเธอก็เป็นคำภาษาฝรั่งเศสที่มีความหมายว่าสายฟ้าเช่นเดียวกับ ฉายาของเธออีกด้วย โดย มายะ ซาคาโมโตะ ผู้เคยพากย์เสียง Aerith ใน Final Fantasy : Crisis Core อีกด้วย










Snow




Snow Villiers อายุ 21 ปี หัวหน้ากลุ่ม " Nora
กลุ่มต่อต้านรัฐบาลโคคูน มีรอยสักที่แขนซ้าย มีอาวุธเป็นเสื้อโค้ทที่จะมีพลังเปลี่ยนไปเมื่อใส่ปลอกแขน และมีอสูรประจำตัวคือ Shiva ธาตุน้ำ ซึ่งในภาคนี้เป็นฝาแฝดชื่อ นิกซ์ กับ สตีเรีย ที่สามารถแปลงเป็นมอเตอร์ไซค์ได้ สโนว์มีชื่อเล่นในหมู่ทีมสร้างเกมว่า "Mr. 33 cm" ตามขนาดรองเท้าที่เขาใส่ ให้เสียงพากย์ญี่ปุ่นโดย ไดสุเกะ โอโนะ ผู้เคยพากย์เสียง พริสแมน ใน ร็อกแมน เอ็กเซ่ แอ็กเซส,เซบาสเตียน มิคาเอลิส ในKuroshitsuji และทรอย เบเกอร์ ผู้เคยให้เสียงพากย์ นากิ สปริงฟิลด์ ในคุณครูจอมเวท เนกิมะ! ฉบับอเมริกา เป็นผู้ให้เสียงพากย์
Vanille





  
Oerba De Vanille  อายุ 19 ปี ลูซิของพัลส์ ผู้รอดชีวิตจาก
สงครามล้างโลกพัลส์เมื่อ 500 ปีก่อน พร้อมกับฟาง และมีพลังใน
การเรียกแร็กนาร็อก สัตว์อสูรสุดยอดที่พร้อมทำลายล้างทุกสิ่งมีมนต์อสูร
ประจำตัวคือ เฮกาตอนคริส ธาตุดิน ที่สามารถแปลงเป็นปืน
สองขาคล้ายมาโดอาร์เมอร์หรือเมจิเทคในไฟนอลแฟนตาซี VI ได้
ให้เสียงพากย์โดย ยูคาริ ฟุกุอิ ผู้เคยพากย์เสียง ทีนา แบรนด์ฟอร์ด ใน
ดิสซิเดีย:ไฟนอลแฟนตาซี 







Sazh




Sazh Katroyz อายุ 40 ปี ชายผิวเข้ม ผมแอฟโฟร มีลูกโจโคโบะที่ซื้อมาให้ลูกชายซ่อนในผม ถือปืนพิสตอลเป็นอาวุธ ซารซ์มีลูกชายชื่อ ดาจฮ์ มีอสูรประจำตัวคือ บรุนฮิลเด ธาตุไฟ ที่สามารถแปลงเป็นรถแข่งคล้ายรถสูตรหนึ่งได้ เท็ดสึยะ โนมุระ ได้แรงบันดาลใจการออกแบบซาร์ซจากไลโอเนล ริชชี นักร้องแนวอาร์แอนด์บีชาวอเมริกัน ให้เสียงพากย์ญี่ปุ่นโดย มาซาชิ เอบาระ และเสียงพากย์อังกฤษโดย เรโน วิลสัน ผู้ให้เสียงพากย์หุ่นมัดแฟล็บ ในภาพยนตร์เรื่อง อภิมหาสงครามแค้น











Fang


Oerba Yun Fang อายุ 21 ปี ลูซิจากโลกพัลส์ที่รอดชีวิตมาพร้อมวานิลาจากสงครามเมื่อ 500 ปีก่อน มีพลังเรียกแร็คนาร็อกได้เช่นเดียวกับวานิลลา ใช้หอกที่สามารถแปลงเป็นกระบองสามท่อนได้เป็นอาวุธ และมีบาฮามุท ธาตุความมืด เป็นอสูรประจำตัว เกสตัห์ลโหมดของบาฮามุทคือการเดินแนวนอนแทนการยืนแนวตั้งในร่างปกติ เดิมทีโนมุระออกแบบฟางให้เป็นผู้ชาย เพื่อให้สอดคล้องกับเนื้อหาของเกม แต่เปลี่ยนเป็นเพศหญิงในภายหลัง









Hope



Hope Estheim อายุ 14 ปี เด็กชายผมบลอนด์ สูญเสียแม่ไปจากการโจมตีของรัฐบาลโคคูนในช่วงต้นเกม ใช้บูมเมอร์แรงเป็นอาวุธ มีอสูรประจำตัวคือ อเล็กซานเดอร์ ธาตุแสง ซึ่งสามารถแปลงเป็นป้อมปราการได้ ให้เสียงพากย์ญี่ปุ่นโดย ยูกิ คาจิ ผู้ให้เสียง ฟีเนียน ใน Kuroshitsuji และเสียงพากย์อังกฤษโดย วินเซนต์ มาร์เตลลา